การกําหนดจุดมุ่งหมายการเรียนการสอน
จุดมุ่งหมาย
มี 2 ลักษณะ คือ
จุดมุ่งหมาย(goals) ที่มีลักษณะกว้าง
ๆ ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายที่ไม่สามารถวัด หรือสังเกตได้ทันที
จุดมุ่งหมายที่มีลักษณะเฉพาะ
สังเกตเห็นพฤติกรรมหรือการปฏิบัติของผู้เรียนได้ บางครั้งเรียกว่า
จุดประสงค์การเรียนรู้ (performance
objective) จําแนกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ
จุดประสงค์เพื่อพัฒนา ศักยภาพ (potential performance) จุดประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพ
(typical performance)
การเขียนจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ที่ชัดเจนสื่อความหมายให้เข้าใจนัยเพียงหนึ่งเดียว
การระบุสมรรถภาพให้ชัดเจน
ควรได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อเรียนรู้จบรายวิชาแล้วมีความสามารถที่จะ ทําอะไรได้
โดยที่เอก่อนเรียนรู้รายวิชานั้น ๆ ยังไม่สามารถทําได้
การเชื่อมโยงอดีตกับอนาคต
ถ้าเป็นไปได้เน้นย้ํามโนทัศน์จากชั้นเรียนที่ผ่านมา พยายามเชื่อมโยง
ให้เห็นความสัมพันธ์กับมโนทัศน์ที่จะเรียนในอนาคต
จุดมุ่งหมายกับการทดสอบ
ถ้าเราเขียนจุดมุ่งหมายได้ชัดเจนและครอบคลุมเนื้อหาจะทําให้สร้าง แบบทดสอบได้ง่าย
ยังสามารถกําหนดกิจกรรมการเรียนการสอนที่จะให้ได้เป็นอย่างดี
การเขียนจุดมุ่งหมายตามหลัก ABCD
A แทน Audience หมายถึง
ผู้เรียนที่แสดงพฤติกรรมตามจุดมุ่งหมายและกําหนดเวลา
B แทน Behavior หมายถึง พฤติกรรมที่คาดหวังจากผู้เรียน
โดยเน้นพฤติกรรมที่สังเกตได้
C แทน Conditions หมายถึง
สภาพการณ์หรือเงื่อนไขที่ผู้เรียนจะต้องปฏิบัติหรือแสดง พฤติกรรมที่สามารถวัดได้
D แทน Degree หมายถึง
ระดับหรือเกณฑ์การวัดที่กําหนดขึ้นมาให้ผู้เรียนปฏิบัติ
การเขียนจุดมุ่งหมายตามหลัก SMART
1.
S -Sensible & Specific จุดมุ่งหมายต้องเฉพาะเจาะจงชัดเจน
จุดมุ่งหมายการเรียนการสอนที่ดี ต้องมีความเป็นไปได้และชี้เฉพาะ
2.
M - Measurable จุคมุ่งหมายต้องสามารถวัดผลได้
ซึ่งช่วยให้ได้ข้อมูลว่าผลการดําเนินการ เป็นอย่างไร ประสบความสําเร็จหรือไม่
3.
A - Attainable & Assignable จุดมุ่งหมายต้องเป็นไปได้
และผู้เรียนหรือผู้ปฏิบัตินําไปปฏิบัติ
ได้หรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนตามจุดมุ่งหมายที่กําหนดไว้
4.
R - Reasonable & Realistic จุดมุ่งหมายต้องมีความเป็นเหตุเป็นผลกันและเป็นไปได้จริง
5.
T - Time Available จุดมุ่งหมายต้องมีกําหนดเวลา เป็นไปได้ตามเวลา
เมื่อเวลาเปลี่ยนไปหรือ สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ จุดมุ่งหมายก็ควรเปลี่ยนไปด้วย
การจำแนกจุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านพุทธิพิสัย
(Cognitive
Domain)
คือ
จุดประสงค์การเรียนรู้ที่เน้นความสามารถทางสมอง
หรือความรอบรู้ในเนื้อหาวิชาหลักการหรือทฤษฎีพฤติกรรมการเรียนรู้ด้านนี้สามารถวัดได้จากการให้ผู้เรียนแจกแจงความรู้
เขียนรายการสิ่งที่รู้ยกตัวอย่าง ประยุกต์กฎต่าง ๆ ที่เรียนไป
หรือวิเคราะห์สถานการณ์ เป็นต้น พฤติกรรมตามระดับการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัยแบ่งไว้
6 ขั้น ซึ่งการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นไป ต้องอาศัยระดับการเรียนรู้ที่ต่ำกว่าเสมอ
ระดับพฤติกรรม
|
ตัวอย่างคำกริยาที่ใช้
|
1. ความรู้ความจำ
ความสามารถในการจดจำสิ่งที่เรียนมาแล้ว อาจเป็นข้อมูลง่าย ๆ จนถึงทฤษฎี
|
บอกคุณสมบัติ จับคู่ เขียนลำดับ
อธิบาย บรรยาย ขีดเส้นใต้ จำแนก ระบุ
|
2. ความเข้าใจ
ความสามารถในการจับใจความการแปลความหมาย การสรุป หรือขยายความ
|
แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ
สรุปความยกตัวอย่าง บอกความแตกต่าง เรียบเรียง เปลี่ยน
|
3. การนำไปใช้
ความสามารถในการนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่
|
แก้ปัญหา สาธิต
ทำนายเชื่อมโยงความสัมพันธ์ เปลี่ยนแปลง คำนวณ ปรับปรุง ผลิต ซ่อม
|
4. การวิเคราะห์
ความสามารถในการแยกสิ่งต่าง ๆ ออกเป็นส่วนย่อยเหล่านั้นได้
|
เขียนโครงร่าง แยกแยะ จัดประเภท
จำแนกให้เห็นความแตกต่าง บอกเหตุผล ทดลอง
|
5. การสังเคราะห์
ความสามารถในการรวบรวมส่วนย่อยๆ เพื่อสร้างรูปแบบหรือโครงสร้างใหม่
|
รวบรวม ออกแบบ จัดระเบียบ สร้าง
ประดิษฐ์ วางหลักการ
|
6. การประเมิน
ความสามารถในการวินิจฉัยคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ โดยมีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน
|
วัดผล เปรียบเทียบ ตีค่า
ลงความคิดเห็น วิจารณ์
|
ด้านจิตพิสัย
(Affective
Domain)
คือ
จุดประสงค์การเรียนรู้ที่เน้นหนักในด้านความสนใจ เจตคติ ค่านิยม อารมณ์และความประทับใจซึ่งวัดได้โดยการสังเกต
แต่บางเรื่องก็ไม่สามารถสังเกตได้โดยตรง
การระบุพฤติกรรมที่คาดหวังให้ผู้เรียนแสดงออกนั้น
ต้องอาศัยการรวบรวมพฤติกรรมที่ชี้ถึงความรู้สึก
เจตคติและค่านิยมของตนเองและผู้อื่น แล้วนำมาใช้ในการกำหนดเป็นพฤติกรรมที่คาดหวัง
พฤติกรรมตามระดับการเรียนรู้ด้านจิตพิสัยแบ่งไว้ 5 ขั้น
ระดับพฤติกรรม
|
ตัวอย่างคำกริยาที่ใช้
|
1. การรับรู้ การยอมรับความคิด
กระบวนการ หรือสิ่งเร้าต่าง ๆ
|
เลือก ชี้ ติดตาม ยอมรับ
|
2. การตอบสนอง
ความเต็มใจที่จะตอบสนองต่อสิ่งที่รับรู้
|
อภิปราย เลือก เขียนชื่อกำกับ
|
3. การเห็นคุณค่า
ความรู้สึกนิยมพอใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนเกิดการปฏิบัติตามสิ่งที่นิยม
|
อภิปราย ริเริ่ม เลือก แสวงหา
ประพฤติตาม นำมาใช้
|
4. การจัดระบบค่านิยม
การนำเอาคุณค่าต่าง ๆ
ที่เกิดจากการเรียนรู้มาผสมผสานและจัดระบบเข้าด้วยกันเพื่อเสริมสร้างระบบคุณค่าขึ้นภายในตนเอง
|
จำแนก จัดลำดับ จัดระเบียบ ผสมผสาน
|
5. การกำหนดคุณลักษณะ
การนำค่านิยมที่จัดระบบแล้วมาปฏิบัติจนเป็นนิสัยเฉพาะตน
|
สนับสนุน ต่อต้าน ใช้เหตุผล แสดงออก
ชักชวน
|
ด้านทักษะพิสัย
(Psychomotor
Domain)
คือจุดประสงค์การเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาทักษะทางกาย เน้นหนักด้านการวางท่าทางให้ถูกต้อง
และเหมาะสมกับการปฏิบัติงานแต่ละชนิด สามารถระบุพฤติกรรมที่แสดงออกได้จากการตีความทักษะหรือการปฏิบัติออกมาเป็นพฤติกรรม
ซึ่งสังเกตได้จากความถูกต้องแม่นยำ ความว่องไว คล่องแคล่ว และสม่ำเสมอ
พฤติกรรมตามระดับการเรียนรู้ด้านทักษะพิสัยแบ่งไว้ 5 ขั้น
ระดับพฤติกรรม
|
ตัวอย่างคำกริยาที่ใช้
|
1. การรับรู้
รับรู้ในสิ่งที่จะต้องปฏิบัติ โดยผ่านประสาทสัมผัส
|
สังเกต รู้สึก สัมผัส ตรวจพบ
|
2. การเตรียมพร้อม
การเตรียมตัวให้พร้อมทางสมอง ทางกายและจิตใจ
|
แสดงท่าทาง ตั้งท่าเข้าประจำที่
|
ระดับพฤติกรรม
|
ตัวอย่างคำกริยาที่ใช้
|
3.
การปฏิบัติงานโดยอาศัยผู้แนะ/เลียนแบบ การทำตามตัวอย่าง การลองผิดลองถูก
|
เลียนแบบ ทดลอง ฝึกหัด
|
4. การปฏิบัติงานได้เอง / คล่อง
ปฏิบัติได้เองอย่างถูกต้อง เรียบร้อย มีประสิทธิภาพ
|
สาธิต ผลิต แก้ไข
ทำได้สำเร็จด้วยตนเอง ทำงานได้เร็วขึ้น
|
5. การปฏิบัติงานด้วยความชำนาญ /
ทำงานใหม่ได้ ปฏิบัติงานด้วยความคล่องแคล่วเหมือนอัตโนมัติสามารถทำงานใหม่ได้
|
ทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง จัดระบบ
ควบคุมการทำงานแนะแนวทาง
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น