วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

รูปแบบ The STUDIES Model

รูปแบบ The STUDIES Model
รูปแบบ The STUDIES Model มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักศึกษาวิชาชีพครู ทีความรู้ความเข้าใจ บทบาทที่สำคัญในฐานะผู้เรียนที่จะต้องศึกษาศาสตร์การสอน และมีบทบาทในฐานะผู้สอนที่จะนำคสามรู้ไปจัดการเรียนรู้ และจัดการชั้นเรียน รายละเอียดดังภาพประกอบ

รูปแบบ The STUDIES Model มี 7 ขั้นตอน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
S: กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ (Setting learning) กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ผู้เรียนต้องระบุจุดหมายการเรียนรู้(goals)ด้วยการระบุความรู้และการปฏิบัติ โดยการระบุ ความรู้ในรูปของสาระสนเทศ และระบุทักษะ การปฏิบัติ หรือกระบวนการ(procedural knowledge) จุดหมายการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยจำนวนของบทเรียน ปริมาณเนื้อหาสาระหรือความรู้สูงสุด แต่หมายถึงความคาดหวังที่จะเรียนรู้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งและเจตนาที่จะให้ผู้เรียนแสดงถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้
T: วิเคราะห์ภาระงาน (Task Analysis) ศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ได้ ความรู้(Knowledge) ทักษะ(Skill) และเจนคติ(Attitude) ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการอธิบายภาระงานหรือกิจกรรมที่ช่วยนำทางผู้เรียนไปสู่จุดหมายการเรียน รู้การวิเคราะห์งานจะเขียนแสดงความสัมพันธ์ด้วย KAS diagram คือ Knowledge-Skill-Attitudes
U: การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (Universal Design for Instruction UDI) เป็นการออกแบบการสอนที่มีครูมีบทบาทเป็นผู้ดำเนินการเชิงรุก เกี่ยวกับการผลิตและหรือจัดหาจัดทำหรือชี้แนะผลิตภัณฑ์การศึกษาและสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ที่จะระบุถึงในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน
D: การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning) การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล เป็นการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายเช่นเครือข่ายสังคมออนไลน์ การแชร์ภาพ และการใช้อินเตอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่เป็นต้น การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีในมากกว่าการเรียนรู้กับเทคโนโลยีสาร สนเทศแต่ยังครอบคลุมถึงประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับเนื้อหา จริยธรรม สังคม และการสะท้อน ซึ่งฟังอยู่ในการเรียนรู้การทำงานและชีวิตประจำวัน
I: การบูรณาการความรู้ (Intergrated Knowledge) การเชื่อมโยงความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในศาสตร์ต่างๆ ของรายวิชาเดียวกันหรือหลักรายวิชาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ (Integratedlearning Management) เป็นกระบวนการจัดประสบการณ์โดยเชื่อมโยงสาระความรู้ของศาสตร์ต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ผู้เรียนได้รับความรู้ทักษะและเจตคติ
E: การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน(Evaluation to Teaching) การประเมินการเรียนนรู้ของตนเอง โดยกำหนดค่าคะแนนจากการวิเคราะห์การประเมินการเรียนรู้ด้านความรู้ (Cognitive Domain) ของบลูม (Bloom’s Taxonomy) การประเมินตามสภาพจริงและการประเมินจากแฟ้มสะสมงาน เป็นการตรวจสอบการบรรลุจุดหมายการเรียนรู้
S: การประเมินอิงมาตรฐาน (Standard Based Assessment ) การประเมินคุณภาพการเรียนรู้อิงมาตรฐาน โดยใช้แนวคิดพื้นฐานโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้(Structure of Observes Learning Outcomes : SOLO Taxonomy) มากำหนดระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นการตรวจสอบคุณภาพ การเรียนรู้ รวมถึงมาตรฐานการประเมินคุณภาพในและการประเมินคถณภาพนอก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับบล็อค

บล็อกนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการจัดการเรียนรู้ และการจัดการชั้นเรียน โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิจิตรา ธงพานิช สาขาหลักสู...